หน้าหลัก
ประวัติของโรงเรียน
สัญลักษณ์ของโรงเรียน
วิสัยทัศน์/พันธกิจ/เป้าหมาย
ผังการบริหาร
ผังองค์กร
ลักษณะเฉพาะ
แผนที่ของโรงเรียน
แผนผังของโรงเรียน
เพลงมาร์ชประจำโรงเรียน
คณะครูผู้สอน
ปฏิทินกิจกรรม
แผนผังของโรงเรียน
 
 
บริหารการจัดการ
ฝ่ายวิชาการ
ฝ่ายธุรการการเงิน
ฝ่ายกิจการนักเรียน
ฝ่ายบริการ
 
 
ระเบียบการต่างๆ
ระเบียบการรับสมัคร
ค่าใช้จ่ายนักเรียน
ระเบียบเครื่องแต่งกาย
 
 
หลักสูตรการศึกษา
ระดับปฐมวัย
ระดับช่วงชั้นที่ 1
ระดับช่วงชั้นที่ 2
ระดับช่วงชั้นที่ 3
 
 
บริหารต่างๆ
อาคารชั้นเรียนต่างๆ
หอพักนักเรียนประจำ
ห้องอาหาร
กิจกรรมสันทนาการ
บรรยากาศแสนสบาย
อาคารประกอบ
สนามกีฬานานาชนิด
ห้องดนตรีไทย
ห้องคอมพิวเตอร์
ห้องสมุด
ห้องพยาบาล
ห้องกิจกรรมลูกเสือ
ห้องวิทยาศาสตร์
 
 
ฝึกสมองไบรท์ด้วย 9 เทคนิค

โดย วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยภาพจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

ผู้หญิงสมัยนี้อยากสวย ฉลาด และสุขภาพดี ทุกคนจึงพากันดูแลรูปร่างด้วยการออกกำลังกาย เคร่งครัดเรื่อง
อาหารการกิน แต่ไม่เคยมีใครสนใจว่าจะดูแลสมองอย่างไรให้มีสุขภาพดี ทั้งที่สมองเป็นอวัยวะที่ตัดสินใจทุกเรื่องของชีวิต
เราจึงควรเอกเซอร์ไซส์สมองให้ไบรท์ด้วยเทคนิคง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1. จิบน้ำบ่อยๆ สมองประกอบด้วยน้ำ 85 เปอร์เซ็นต์ เซลล์สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มี
น้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เซลล์สมองเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่
ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อยๆ

2. กินไขมันดี คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้
กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย ปลาที่มีไขมันดีอย่างปลาแซลมอน นมถั่ว
เหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดีที่ทำให้เซลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น

3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่
ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุดๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถ
จินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ (ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน)

4. ใส่ความตั้งใจ การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะ
ปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่างๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่ง
ที่ทำจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน

5. หัวเราะและยิ้มบ่อยๆ ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอนเดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขหลั่งออกมา
เท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ

6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ๆ
รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา ฯลฯ เพราะการ
เรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอนเดอร์ฟินและโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยาก
เรียนรู้และสร้างสรรค์ไปเรื่อยๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์

7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การ
ให้อภัยตัวเองเป็นการลดภาระของสมอง

8. เขียนบันทึก Graceful Journal ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น
ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข ฯลฯ เพราะการเขียน
เรื่องดีๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มี
ความคิดสร้างสรรค์

9. ฝึกหายใจลึกๆ สมองใช้ออกซิเจน 20-25 เปอร์เซ็นต์ของออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึกๆ จึง
เป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงาน
นานๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยืดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอดได้
เพิ่มขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์

การมีสมองที่ดีก็เหมือนกับทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแล
และฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง พุทธศักราช 2551




โรงเรียนเพชรบูรณ์การ์เด้นฮิลล์ - มาตราฐานความรู้ ไร้ขอบเขต บรรยากาศธรรมชาติ หนึ่งเดียวในประเทศไทย
47 หมู่ 18 ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณุ์ 67160 โทรศัพท์ 056-718074