หน้าหลัก
ประวัติของโรงเรียน
สัญลักษณ์ของโรงเรียน
วิสัยทัศน์/พันธกิจ/เป้าหมาย
ผังการบริหาร
ผังองค์กร
ลักษณะเฉพาะ
แผนที่ของโรงเรียน
แผนผังของโรงเรียน
เพลงมาร์ชประจำโรงเรียน
คณะครูผู้สอน
ปฏิทินกิจกรรม
แผนผังของโรงเรียน
 
 
บริหารการจัดการ
ฝ่ายวิชาการ
ฝ่ายธุรการการเงิน
ฝ่ายกิจการนักเรียน
ฝ่ายบริการ
 
 
ระเบียบการต่างๆ
ระเบียบการรับสมัคร
ค่าใช้จ่ายนักเรียน
ระเบียบเครื่องแต่งกาย
 
 
หลักสูตรการศึกษา
ระดับปฐมวัย
ระดับช่วงชั้นที่ 1
ระดับช่วงชั้นที่ 2
ระดับช่วงชั้นที่ 3
 
 
บริหารต่างๆ
อาคารชั้นเรียนต่างๆ
หอพักนักเรียนประจำ
ห้องอาหาร
กิจกรรมสันทนาการ
บรรยากาศแสนสบาย
อาคารประกอบ
สนามกีฬานานาชนิด
ห้องดนตรีไทย
ห้องคอมพิวเตอร์
ห้องสมุด
ห้องพยาบาล
ห้องกิจกรรมลูกเสือ
ห้องวิทยาศาสตร์
 
 

เปิดหัวใจ....ให้สัมผัสรักแท้

อาจจะเป็นเรื่อง "เส้นผมบังภูเขา" ไม่ใช่ว่าเรารักเขา เขาไม่รักเรา หรือเราไม่รักเขา แต่เขารักเรา ฯลฯ ที่ทำให้ "รักแท้" เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งทั้งๆ ที่แท้จริงอยู่ตรงเบื้องหน้านี่เอง

 ดังคำบอกเล่าของ ภิกษุณี นิรามิสา ในงานเสวนา "ภาวนาว่าด้วยรัก" โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

ไม่ว่าใครก็ล้วนเคยผ่านช่วงเวลาวิ่งตามความรักมาแล้วทั้งนั้น แม้แต่ภิกษุณีลูกศิษย์ท่านติช นัท ฮันห์ พระมหาเถระชื่อดังแห่งหมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส ก็เช่นกัน หากการได้ลิ้มรสธรรมะ พิจารณาความจริงของชีวิต ทำให้ท่านภิกษุณีได้เรียนรู้ว่าองค์ประกอบที่แม้แต่เด็กๆ ก็ยังท่องได้ "เมตตา" "กรุณา" "มุทิตา" และ "อุเบกขา" หลักพรหมวิหาร 4 นี่เอง ที่เป็นองค์ประกอบของรักแท้ในความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ทั้งคนรัก ครอบครัว หรือในการทำงาน

หลวงพี่ยกหลักง่ายๆ ในการเปิดหัวใจรักข้อแรก นั่นคือ "อยู่ตรงนั้น" ให้เวลากับคนที่เรารักอย่างแท้จริง ไม่ใช่ว่าตัวอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่ใจยังว้าวุ่นคิดถึงเรื่องงานไปไหนต่อไหน ไม่มีสมาธิอยู่กับคนข้างๆ โดยการใช้เวลาอย่างมีสติตระหนักรู้อยู่กับคนที่เรารักอย่างจริงแท้นั้น นับเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด

"เราฝึกความสามารถที่จะทำให้คนรักของเรามีความสุขได้ โดยใช้ทักษะซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญแห่งรักแท้ นั่นคือ 'การฟัง' ฟังอย่างลึกซึ้งไม่ใช่แบบที่ฟังเพื่อรอจะพูดต่อไป หรือฟังแค่ในสิ่งที่ตรงกับเราคิดเท่านั้น ซึ่งการฟังอย่างตั้งใจ อย่างมีสติขณะที่เขาพูด เหมือนโถเปล่าๆ ที่รองรับน้ำได้ทุกหยด จะทำให้เกิดความเข้าใจลึกซึ้ง เสมือนได้เข้าไปอยู่ในเนื้อหนังมังสาของผู้พูด เมื่อเขามีทุกข์ เราจะสัมผัสได้ถึงความทุกข์ของเขา แล้วเราจะอยากช่วยให้เขาพ้นทุกข์ นั่นคือองค์ประกอบรักแท้ 'เมตตา' และ 'กรุณา'"

อย่างไรก็ดี ความพร้อมในการให้พลังกรุณาแด่ผู้อื่น หลวงพี่แนะว่า เราต้องมีความสามารถที่จะให้ตัวเองก่อน ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขในตัวเรา มองชีวิตแง่บวก สร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ มีสติตระหนักรู้กับตัวเอง ว่ากำลังทำอะไร อ่านหนังสือเล่มไหน ฟังเพลงหรือสนทนาเรื่องอะไร อย่างถ้าหากเราหงุดหงิด ก็ลองให้กลับมาอยู่กับลมหายใจของเราเอง หายใจเข้าก็ผ่อนคลาย หายใจออกก็ผ่อนคลาย เมื่อเราบ่มเพาะความสามารถในการดูแลตัวเราได้ เราก็พร้อมแล้วที่จะให้ผู้อื่น

"ยิ่งเรามีความสุขที่แท้จริง ความรู้สึกอยากให้ก็จะมาเอง เมื่อเราเห็นผู้อื่นเป็นสุขเราจะสามารถชื่นชมยินดีไปกับความสุขนั้นด้วย นี่คือพลังแห่ง 'มุทิตาจิต' พลังนี้จะนำความสุขมาให้เรา พร้อมฝึกให้เราไม่มีนิสัยคิดเปรียบเทียบ คิดปมเด่นปมด้อย หรือปมเสมอ ว่าเราดีแย่กว่าเขาอย่างไร นี่จะนำมาซึ่งความอิจฉาริษยา

แต่ถ้าเกิดความอิจฉาก็ให้ยิ้มให้กับความรู้สึกนั้น ยอมรับมัน แล้วก็อยู่นิ่งๆ ตระหนักว่าในตัวของคนเรามีเมล็ดพันธุ์ต่างๆ ในตัวมากมายที่พร้อมจะงอกงาม ขึ้นอยู่กับว่าเราหมั่นรดน้ำพรวนดินให้กับเมล็ดพันธุ์ใด เมล็ดพันธุ์ความเมตตากรุณา หรือเมล็ดพันธุ์ความโกรธ ความอิจฉา เราอาจจะโตมากับปมความรู้สึกอิจฉาพี่น้องที่เขาได้ของเล่น แต่เราไม่ได้ เราไปเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนวันนี้ได้ อนาคตของเราก็เปลี่ยนได้เช่นกัน"

ส่วน 'อุเบกขา' ในความหมายของหลวงพี่ คือความสามารถในการโอบรับความรู้สึกต่างๆ โอบรับความรู้สึกดีๆ อดทนกับความรู้สึกแย่ๆ นี่คือความหมายอันลึกซึ้งของ "การวางเฉย" ในพระพุทธศาสนา โดยความรักที่ไม่แบ่งแยก ไม่ยึดถือว่า "การให้" คือการช่วยผู้อื่นปลดความทุกข์ ไม่มองว่าผู้อื่นเป็นเพียง "ผู้รับ" ที่ต้องการความช่วยเหลือของเรา อันจะเป็นหนทางเพิ่มอัตตาให้ตัวเอง ถ้าฝึกหัวใจได้จะทำให้เราสัมผัสกับการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน

"วิธีการให้ควรเป็นไปอย่างตระหนักรู้ มีสติ รู้ว่าเราให้เพราะว่ามันขาด เราให้เพื่อจะให้ ไม่ได้หวังอะไรลึกๆ ข้างใน ไม่ได้หวังให้ตัวเองรู้สึกดี การได้ทำอะไรดีๆ มันเป็นธรรมดาที่เราจะอยากให้คนอื่นมองเราใจดี มองเราใจบุญ แต่ถ้าไม่ระวัง มันจะกลายเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงอัตตา หรืออีโก้ข้างในตัวเรา เพราะจริงๆ การทำความดีแล้วมันก็อยู่ตรงนั้นเท่านั้นเอง มันมีเงื่อนไข มีเหตุผลที่เรามาเจอกัน แล้วเรามีการกระทำที่ดี ช่วยให้เขาดีขึ้น แล้วเราเองมีความเบิกบาน เราต้องขอบคุณที่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น" ภิกษุณีให้แง่คิดปิดท้าย

แล้วคุณล่ะวันนี้ได้เจอ "รักแท้" หรือยัง...

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง พุทธศักราช 2551



โรงเรียนเพชรบูรณ์การ์เด้นฮิลล์ - มาตราฐานความรู้ ไร้ขอบเขต บรรยากาศธรรมชาติ หนึ่งเดียวในประเทศไทย
47 หมู่ 18 ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณุ์ 67160 โทรศัพท์ 056-718074